นิทานอีสป นิทานคติสอนใจ
วันจันทร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2558
นิทานอีสป เรื่อง คนขี้เหนียวกับทองคำ
โดยไม่ยอมนำมาใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์
เเล้วซื้อทองคำเเท่งหนึ่ง มาฝังไว้ที่หลังบ้าน เเล้วหมั่นไปดูทองคำอยู่ทุกๆวัน
ว่าเจ้าของบ้าน มาทำอะไรอยู่หลังบ้านในทุกๆวัน เเล้วก็ได้แอบขุดเอาทองเเท่งไปเสีย
และร้องห่มร้องไห้ไปบอกเพื่อนบ้านคนหนึ่ง
เพราะถึงอย่างไรท่านก็ไม่เอาเอามาใช้อยู่เเล้ว"
วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2558
นิทานอีสป เรื่อง คนตัดไม้กับสุนัขจิ้งจอก
นิทานอีสป เรื่อง คนตัดไม้กับสุนัขจิ้งจอก
มีคนตัดไม้คนหนึ่งได้พาสุนัขจิ้งจอกเข้าไปซ่อนที่ข้างกระท่อม
เมื่อถูกสุนัขจิ้งจอก ขอความช่วยเหลือ
พวกล่าสัตว์จูงหมาล่าเนื้อมาถึงก็ถามคนตัดไม้ว่าเห็น สุนัขจิ้งจอกหรือไม่
"ไม่เห็นเลยเพื่อนเอ๋ย"
คนตัดไม้ปฏิเสธเเต่ก็ชี้นิ้วไปทางข้างกระท่อม ที่ซึ่งสุนัขจิ้งจอกได้ซ่อนอยู่
พวกล่าสัตว์จูงหมาล่าเนื้อไม่เข้าใจสัญญาณบอกใบ้นั้นจึงพากัน กลับไป
สุนัขจิ้งจอกรออยู่อีกสักครู่ก็ออกมาจากที่ซ่อนข้างกระท่อม
เเล้ววิ่ง ผ่านหน้าคนตัดไม้ไป คนตัดไม้จึงร้องขึ้นว่า
"ข้าช่วยชีวิตเจ้าไว้ เจ้าไม่ขอบคุณเข้าเลยหรือ"
"ลิ้นของเจ้าไม่ตรงเหมือนนิ้วของเจ้าเลยนะจะให ้ขอบใจได้อย่างไร"
สุนัขจิ้งจอกกล่าวเเล้วก็วิ่งหนีเข้าป่าไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"คนไม่เชื่อ ย่อมไม่มีผู้ใดนับถือ"
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557
นิทานอีสป เรื่อง คนหาปลากับพราน
นิทานอีสป เรื่อง คนหาปลากับพราน
มีอยู่วันหนึ่งคนหาปลาได้เดินสวนกับนายพราน
เเละเห็นว่านายพราน มีเนื้อสัตว์อยู่มากมาย จึงได้เอ่ยถามนายพรานไปว่า
"ท่านพรานป่า ข้าขอเอาปลาเเลกกับเนื้อสัตว์ของท่านบ้างได้หรือไม่"
นายพรานเห็นคนหาปลามีปลาอยู่หลายตัวก็นึกอยากจะลิ้มลองกิน เนื้อปลาบ้าง
ในวันต่อๆ มา คนหาปลากับนายพรานก็นัดพบ เพื่อเเลกเปลี่ยนอาหารกันทุกวัน
จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง คนหาปลา ก็ได้เอ่ยขึ้นว่า
"ท่านนายพราน ท่านยังอยากจะเเลกเนื้อกับปลากับข้าอยู่หรือไม่"
นายพรานก็ตอบว่า " ข้าเริ่มเบื่อเนื้อปลาเเละอยากกินเนื้อดังเดิมเเล้วละ "
คนหาปลากับนายพราน ทั้งสองจึงตกลงยกเลิกเเลกเปลี่ยนอาหารกันอีกต่อไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
" คนเรามักอยากลิ้มลองของใหม่ เเต่ไม่นานก็ต้องเห็นค่าของ ของเก่า "
วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557
นิทานอีสป เรื่อง ค้างคาวเลือกพวก
นิทานอีสป เรื่อง ค้างคาวเลือกพวก
ค้างคาวนั้นถือว่าตนก็มีปีกเหมือนนก เเละก็มีหูเหมือนสัตว์ อื่นทั่วๆ ไป
ดังนั้นเมื่อนกยกพวกไปต่อสู่กับสัตว์อื่นๆ ค้างคาวก็ขอตัวไม่ เข้าข้างฝ่ายใดโดยทำตัวเป็นกลาง
เเต่เมื่อพวกของนกมีท่าทีว่าจะชนะ ค้างคาวก็ประกาศตัว ไปเข้ากับฝ่ายนก
ต่อมาพวกนกจะพลาดท่าเสียทีเเก่สัตว์อื่นๆ ค้างคาวก็ผละ จากนกไปเข้าพวกกับสัตว์อื่นๆ
ต่อมานกต่อสู้จนใกล้จะได้ชัย ค้างคาวก็กลับมาอยู่ข้างฝ่ายพวก นกอีก
เมื่อนกกับสัตว์อื่นๆ ทำสัญญาสงบศึกเเละเป็นมิตรต่อกัน ทั้งสองต่างก็ขับไล่ค้างคาว ไม่ยอมให้เข้าพวก
ด้วย
ค้างคาวอับอายจึงไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ จะออกจากถ้ำไปหา อาหาร ในตอนกลางคืนเท่านั้น
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"ผู้ที่ขาดความจริงใจ ไม่มีใครอยากคบหาด้วย"
วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557
นิทานอีสป เรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ
นิทานอีสป เรื่อง เด็กเลี้ยงแกะ
วันหนึ่งมีเด็กเลี้ยงเเกะคนหนึ่ง ต้อนฝูงแกะออกไปปล่อยกินหญ้าในทุ่งหญ้าในนา แล้วตัวเขาเองก็นั่งเล่นอยู่ชายทุ่งคิดหาเรื่องสนุกๆ เล่น
"เบื่อจริง ๆ " เด็กเลี้ยงแกะบ่น หลอกชาวบ้านเล่นคงจะดี เขานึกสนุก และคิดเรื่องที่หลอกชาวบ้าน จึงเเกล้งร้องตะโกน ขึ้นมาว่า
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย! หมาป่ามากิน ลูกเเกะ เเล้ว ช่วยด้วยจ้า ! "
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย! หมาป่ามากิน ลูกเเกะ เเล้ว ช่วยด้วยจ้า ! "
เด็กเลี้ยงแกะวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปในหมู่บ้านพลางร้องตะโกนให้คนช่วย
"หมาป่า กินแกะของผมหมดแล้ว ช่วยด้วยครับ"
พวกชาวบ้านจึงพากันวิ่งมาช่วยพร้อมด้วยอาวุธต่างๆ
พวกชาวบ้านจึงพากันวิ่งมาช่วยพร้อมด้วยอาวุธต่างๆ
"หมาป่ามันอยู่ที่ไหน ไอ้หนู่"
"ในทุ่งนาครับ" เด็กเลี้ยงแกะชี้ไปที่ทุ่งนา ชาวบ้านจึงพากันวิ่งไปตามทางที่เด็กบอก "ไม่เห็นมีหมาป่าสักตัวนี่"
"มันวิ่งไปทางโน้นเเล้วล่ะ"
เด็กเลี้ยงเเกะโป้ปดเเล้วก็เเอบหัวเราะชอบใจภายหลัง
ต่อจากนั้นเด็กเลี้ยงเเกะก็เเกล้งหลอกให้ชาวบ้านวิ่งหน้าตื่น เช่นเดิมได้อีก ๒- ๓ ครั้ง
จนกระทั่งวันหนึ่งมีหมาป่าหิวโซเดินมา ในทุ่งหญ้าที่เด็กชายเลี้ยงแกะพอดี
"ในทุ่งนาครับ" เด็กเลี้ยงแกะชี้ไปที่ทุ่งนา ชาวบ้านจึงพากันวิ่งไปตามทางที่เด็กบอก "ไม่เห็นมีหมาป่าสักตัวนี่"
"มันวิ่งไปทางโน้นเเล้วล่ะ"
เด็กเลี้ยงเเกะโป้ปดเเล้วก็เเอบหัวเราะชอบใจภายหลัง
ต่อจากนั้นเด็กเลี้ยงเเกะก็เเกล้งหลอกให้ชาวบ้านวิ่งหน้าตื่น เช่นเดิมได้อีก ๒- ๓ ครั้ง
จนกระทั่งวันหนึ่งมีหมาป่าหิวโซเดินมา ในทุ่งหญ้าที่เด็กชายเลี้ยงแกะพอดี
"หวานข้าละ" สุนัขป่าคำราม ฝูงแกะได้ยินเสียงสุนัขหมาป่า ก็ตกใจวิ่งหนีกันวุ่นวาย และส่งเสียงร้องดังไปทั้งทุ่ง "หมาป่า"
เด็กเลี้ยงแกะตกใจ เมื่อเห็นหมาป่ากำลังทำร้ายแกะของเขา
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย! " เด็กเลี้ยงแกะ วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือที่หมู่บ้าน
"หมาป่ากำลังกินแกะของผม ช่วยด้วยเถอะครับ"
เด็กเลี้ยงแกะ ตะโกนขอความช่วยเหลือจนคอเเหบ คอเเห้ง
"ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ" ชาวบ้านตะคอกใส่หน้า "คราวนี้แกหลอกพวกข้าไม่ได้หลอก"
ไม่มีใครออกไปช่วยไล่หมาป่าให้ เด็กเลี้ยงแกะ สักคน พวกชาวบ้านก็ไม่มาเพราะคิดว่า เด็กเลี้ยงแกะ หลอก
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"คนที่มักโป้ปดมดเท็จ เมื่อถึงคราวพูดจริงก็ยากที่จะมีใครเชื่อ"
วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557
นิทานอีสป เรื่อง นกกระเรียนกับหมาป่า
นิทานอีสป เรื่อง นกกระเรียนกับหมาป่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว .... มีหมาป่าอยู่ตัวหนึ่ง เที่ยวเดินหาอาหารกินตามรายทางเรื่อยละไปทั่ว จนกระทั่งวันหนึ่งเศษกระดูกก็ติดคอของมัน สร้างความปวดร้าวเป็นอย่างมาก มันเดินท่อมเที่ยวส่งเสียงร้องให้สัตว์อื่นมาช่วยเหลือ และแล้วในเวลาไม่นานนัก มันก็พบกับเจ้านกกระเรียนตัวหนึ่งเข้า นกกระเรียนเห็นหมาป่านอนดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดที่กลางป่า จึงเข้าเข้าไปถามไถ่อย่างเวทนาว่า"เจ้าเป็นอะไรหรือ"
"ข้ากลืนชิ้นเนื้อเข้าไป กระดูกติดคอข้า ทำอย่างไรก็ไม่ออก"
หมาป่าบอกเเล้วก็ขอร้องให้นกกระเรียนช่วยเหลือตนด้วย เเล้วตน จะให้รางวัลอย่างงามเป็นการตอบเเทน
นกกระเรียนตัวนั้นก็ตรงเข้าช่วยเหลือทันที นกกระเรียนจึงยื่นคออันยาวเรียวของมันเข้าไปในปากหมาป่า เเละสามารถล้วงเอากระดูกออกมาได้สำเร็จ
"ข้าไม่งับคอเจ้าขาดตายก็ดีเเล้ว ยังจะมาเอาอะไรจากข้าอีก เล่า"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"คนเลวมักไม่เห็นความดีของผู้อื่น
วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2557
นิทานอีสป เรื่อง ชาวนากับงูเห่า
นิทานอีสป
เรื่อง ชาวนากับงูเห่า
พร้อมที่จะทำการเก็บเกี่ยว เช้าวันหนึ่งท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ชาวนาและเพื่อนบ้าน
ได้พากันออกไปทำนาอย่างเช่นเคยทุกวัน ระหว่างทางได้พบงูเห่าตัวหนึ่ง นอนขดตัวแข็งใกล้ตาย
อยู่บนคันนา ด้วยความเหน็บหนาว และเพราะความหนาวมันไม่กระดุกกระดิกเรย
ชาวนาเฝ้ามองดูมันอยู่นานด้วยความรู้สึกสงสารอย่างจับใจ ด้วยความเป็นคนมีเมตตาใจดี
จึงก้มลงประคอง แล้วอุ้มมันไว้ในอ้อมแขนเพื่อให้มันหายหนาว
ในที่สุดเมื่อเจ้างูเห่าได้รับความอบอุ่นก็เริ่มมีกำลังมากขึ้น มันจึงฉกกัดเข้าที่แขนของชาวนา
ก่อนที่จะเลี้อยหนีไป ชาวนาผู้นั้นร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดและล้มลงสิ้นใจตายอยู่ตรงนั้นเอง
ก่อนตายชาวนาผู้นั้นได้ร้องรำพันออกมาว่า “ทำคุณแก่สัตว์ร้าย…มักจะให้โทษแก่เราอย่างนี้แหละหนอ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"ทำคุณกับคนชั่ว มีแต่จะได้รับความเดือนร้อน"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)